การตั้งค่าในวิธี การเทรดด้วย Fibonacci

การตั้งค่าและวิธีการเทรดด้วย Fibonacci Retracement Levels นั้นมีความสำคัญในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ โดยในกระบวนการเทรดนี้ นักเทรดจะต้องใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement บนแพลตฟอร์มการเทรด เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม นี่คือขั้นตอนการตั้งค่าและการเทรดด้วย Fibonacci:

ขั้นตอนการตั้งค่า Fibonacci Retracement:

  1. เลือกเครื่องมือ Fibonacci Retracement บนแพลตฟอร์มการเทรด:
    • ในแพลตฟอร์มการเทรดส่วนใหญ่ เช่น MetaTrader, TradingView หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ คุณสามารถค้นหาเครื่องมือ Fibonacci Retracement ในส่วนของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
  2. ระบุแนวโน้มหลัก (Identify the Primary Trend):
    • หาจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์
  3. วาดเส้น Fibonacci Retracement:
    • สำหรับแนวโน้มขาขึ้น: วาดเส้นจากจุดต่ำสุด (Swing Low) ไปยังจุดสูงสุด (Swing High)
    • สำหรับแนวโน้มขาลง: วาดเส้นจากจุดสูงสุด (Swing High) ไปยังจุดต่ำสุด (Swing Low)
  4. ระบุระดับ Fibonacci (Identify the Fibonacci Levels):
    • ระดับหลักที่ควรใช้คือ 38.2%, 50%, และ 61.8%
    • ระดับเหล่านี้จะปรากฏอัตโนมัติบนกราฟหลังจากการวาดเส้น Fibonacci

วิธีการเทรดด้วย Fibonacci Retracement:

  1. การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis):
    • ยืนยันแนวโน้มหลักของตลาด (ขาขึ้นหรือขาลง) โดยใช้กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์
    • ใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น Moving Averages, MACD, หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันแนวโน้ม
  2. การระบุจุดเข้า (Identifying Entry Points):
    • แนวโน้มขาขึ้น:
      • รอให้ราคาปรับตัวลงมาทดสอบระดับ Fibonacci Retracement เช่น 38.2% หรือ 61.8%
      • ดูสัญญาณการกลับตัวขึ้น เช่น แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns), การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย (Volume), หรือสัญญาณบวกจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
      • เข้าซื้อ (Buy) เมื่อมีการยืนยันการกลับตัวขึ้น
    • แนวโน้มขาลง:
      • รอให้ราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ Fibonacci Retracement เช่น 38.2% หรือ 61.8%
      • ดูสัญญาณการกลับตัวลง เช่น แท่งเทียนกลับตัว, การเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย, หรือสัญญาณลบจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
      • เข้าขาย (Sell) เมื่อมีการยืนยันการกลับตัวลง
  3. การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Setting Stop-Loss):
    • ตั้งจุดหยุดขาดทุนต่ำกว่าระดับ Fibonacci Retracement ที่ทดสอบสำหรับการซื้อ หรือสูงกว่าระดับ Fibonacci Retracement ที่ทดสอบสำหรับการขาย เพื่อป้องกันการขาดทุนในกรณีที่การกลับตัวไม่เกิดขึ้น
  4. การตั้งเป้าหมายกำไร (Setting Profit Targets):
    • ใช้ระดับ Fibonacci Extension (เช่น 127.2%, 161.8%) หรือแนวรับแนวต้านเดิมที่มีความน่าเชื่อถือเป็นเป้าหมายในการทำกำไร

ตัวอย่างการเทรดด้วย Fibonacci Retracement:

ตัวอย่างแนวโน้มขาขึ้น:

  • ราคาหุ้นขึ้นจาก $100 ไปถึง $150 จากนั้นเริ่มปรับตัวลง
  • วาด Fibonacci Retracement จาก $100 (จุดต่ำสุด) ไปถึง $150 (จุดสูงสุด)
  • ระดับ Fibonacci Retracement 38.2%, 50%, และ 61.8% จะอยู่ที่ประมาณ $131.4, $125, และ $118.6 ตามลำดับ
  • รอดูราคาว่าจะกลับตัวขึ้นที่ระดับใดระดับหนึ่งเพื่อเข้าเทรดซื้อ (Buy)

ตัวอย่างแนวโน้มขาลง:

  • ราคาหุ้นลงจาก $200 ไปถึง $150 จากนั้นเริ่มปรับตัวขึ้น
  • วาด Fibonacci Retracement จาก $200 (จุดสูงสุด) ไปถึง $150 (จุดต่ำสุด)
  • ระดับ Fibonacci Retracement 38.2%, 50%, และ 61.8% จะอยู่ที่ประมาณ $169.1, $175, และ $180.9 ตามลำดับ
  • รอดูราคาว่าจะกลับตัวลงที่ระดับใดระดับหนึ่งเพื่อเข้าเทรดขาย (Sell)

ข้อควรระวัง:

  • Fibonacci Retracement ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น แท่งเทียนกลับตัว, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค, และปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันการกลับตัว
  • ระดับ Fibonacci Retracement อาจไม่ทำงานในบางสถานการณ์ ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริมในการตัดสินใจ
  • ควรพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจและข่าวสารที่อาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์

การเทรดด้วย Fibonacci Retracement Levels เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการหาจุดเข้าและออกจากตลาด อย่างไรก็ตาม ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

4o

Founded Year 2008, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 13 languages
Founded Year 2009, leverage 1:1000, Platforms MT4/MT5, Website 28 languages
Founded Year 2010, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 20 languages

© Copyright 2024 Busforex.com