การตั้งค่าและวิธีการเทรดด้วย Fibonacci Retracement Levels นั้นมีความสำคัญในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ โดยในกระบวนการเทรดนี้ นักเทรดจะต้องใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement บนแพลตฟอร์มการเทรด เพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม นี่คือขั้นตอนการตั้งค่าและการเทรดด้วย Fibonacci:
ขั้นตอนการตั้งค่า Fibonacci Retracement:
- เลือกเครื่องมือ Fibonacci Retracement บนแพลตฟอร์มการเทรด:
- ในแพลตฟอร์มการเทรดส่วนใหญ่ เช่น MetaTrader, TradingView หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ คุณสามารถค้นหาเครื่องมือ Fibonacci Retracement ในส่วนของเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ระบุแนวโน้มหลัก (Identify the Primary Trend):
- หาจุดสูงสุด (Swing High) และจุดต่ำสุด (Swing Low) ในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์
- วาดเส้น Fibonacci Retracement:
- สำหรับแนวโน้มขาขึ้น: วาดเส้นจากจุดต่ำสุด (Swing Low) ไปยังจุดสูงสุด (Swing High)
- สำหรับแนวโน้มขาลง: วาดเส้นจากจุดสูงสุด (Swing High) ไปยังจุดต่ำสุด (Swing Low)
- ระบุระดับ Fibonacci (Identify the Fibonacci Levels):
- ระดับหลักที่ควรใช้คือ 38.2%, 50%, และ 61.8%
- ระดับเหล่านี้จะปรากฏอัตโนมัติบนกราฟหลังจากการวาดเส้น Fibonacci
วิธีการเทรดด้วย Fibonacci Retracement:
- การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis):
- ยืนยันแนวโน้มหลักของตลาด (ขาขึ้นหรือขาลง) โดยใช้กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์
- ใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น Moving Averages, MACD, หรือ RSI เพื่อช่วยยืนยันแนวโน้ม
- การระบุจุดเข้า (Identifying Entry Points):
- แนวโน้มขาขึ้น:
- รอให้ราคาปรับตัวลงมาทดสอบระดับ Fibonacci Retracement เช่น 38.2% หรือ 61.8%
- ดูสัญญาณการกลับตัวขึ้น เช่น แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns), การเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย (Volume), หรือสัญญาณบวกจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
- เข้าซื้อ (Buy) เมื่อมีการยืนยันการกลับตัวขึ้น
- แนวโน้มขาลง:
- รอให้ราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ Fibonacci Retracement เช่น 38.2% หรือ 61.8%
- ดูสัญญาณการกลับตัวลง เช่น แท่งเทียนกลับตัว, การเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย, หรือสัญญาณลบจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
- เข้าขาย (Sell) เมื่อมีการยืนยันการกลับตัวลง
- แนวโน้มขาขึ้น:
- การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Setting Stop-Loss):
- ตั้งจุดหยุดขาดทุนต่ำกว่าระดับ Fibonacci Retracement ที่ทดสอบสำหรับการซื้อ หรือสูงกว่าระดับ Fibonacci Retracement ที่ทดสอบสำหรับการขาย เพื่อป้องกันการขาดทุนในกรณีที่การกลับตัวไม่เกิดขึ้น
- การตั้งเป้าหมายกำไร (Setting Profit Targets):
- ใช้ระดับ Fibonacci Extension (เช่น 127.2%, 161.8%) หรือแนวรับแนวต้านเดิมที่มีความน่าเชื่อถือเป็นเป้าหมายในการทำกำไร
ตัวอย่างการเทรดด้วย Fibonacci Retracement:
ตัวอย่างแนวโน้มขาขึ้น:
- ราคาหุ้นขึ้นจาก $100 ไปถึง $150 จากนั้นเริ่มปรับตัวลง
- วาด Fibonacci Retracement จาก $100 (จุดต่ำสุด) ไปถึง $150 (จุดสูงสุด)
- ระดับ Fibonacci Retracement 38.2%, 50%, และ 61.8% จะอยู่ที่ประมาณ $131.4, $125, และ $118.6 ตามลำดับ
- รอดูราคาว่าจะกลับตัวขึ้นที่ระดับใดระดับหนึ่งเพื่อเข้าเทรดซื้อ (Buy)
ตัวอย่างแนวโน้มขาลง:
- ราคาหุ้นลงจาก $200 ไปถึง $150 จากนั้นเริ่มปรับตัวขึ้น
- วาด Fibonacci Retracement จาก $200 (จุดสูงสุด) ไปถึง $150 (จุดต่ำสุด)
- ระดับ Fibonacci Retracement 38.2%, 50%, และ 61.8% จะอยู่ที่ประมาณ $169.1, $175, และ $180.9 ตามลำดับ
- รอดูราคาว่าจะกลับตัวลงที่ระดับใดระดับหนึ่งเพื่อเข้าเทรดขาย (Sell)
ข้อควรระวัง:
- Fibonacci Retracement ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น แท่งเทียนกลับตัว, อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค, และปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพื่อยืนยันการกลับตัว
- ระดับ Fibonacci Retracement อาจไม่ทำงานในบางสถานการณ์ ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริมในการตัดสินใจ
- ควรพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจและข่าวสารที่อาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์
การเทรดด้วย Fibonacci Retracement Levels เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการหาจุดเข้าและออกจากตลาด อย่างไรก็ตาม ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
4o