Stop Order เป็นคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดการเงินที่ถูกกำหนดให้ดำเนินการเมื่อราคาของหลักทรัพย์นั้นถึงหรือผ่านระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า คำสั่งนี้มีประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถควบคุมความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
ประเภทของ Stop Order:
- Stop Loss Order:
- ใช้เพื่อลดการขาดทุน
- เมื่อราคาของหลักทรัพย์ตกลงมาถึงระดับราคาที่กำหนดไว้ คำสั่งจะถูกส่งไปยังตลาดให้ขายหลักทรัพย์ทันที
- ตัวอย่าง: หากคุณซื้อหุ้นที่ราคา $100 และตั้ง Stop Loss Order ที่ $90 เมื่อราคาตกลงมาถึง $90 ระบบจะทำการขายหุ้นของคุณทันทีเพื่อลดการขาดทุน
- Stop Buy Order (หรือ Buy Stop Order):
- ใช้เพื่อเข้าซื้อหลักทรัพย์เมื่อราคาสูงขึ้นถึงระดับที่กำหนดไว้
- เมื่อราคาของหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นถึงระดับราคาที่กำหนดไว้ คำสั่งจะถูกส่งไปยังตลาดให้ซื้อลักทรัพย์ทันที
- ตัวอย่าง: หากคุณต้องการซื้อหุ้นเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึง $120 คุณสามารถตั้ง Buy Stop Order ที่ $120 เมื่อราคาถึง $120 ระบบจะทำการซื้อลักทรัพย์ให้คุณทันที
ประโยชน์ของ Stop Order:
- การจัดการความเสี่ยง (Risk Management):
- ช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนโดยอัตโนมัติ เมื่อราคาตกลงมาถึงระดับที่กำหนดไว้
- ลดความเครียดและความกังวล เนื่องจากผู้ลงทุนไม่ต้องเฝ้าดูตลาดตลอดเวลา
- การล็อกกำไร (Locking in Profits):
- สามารถใช้ Stop Loss Order เพื่อรักษากำไรที่ได้มาแล้ว โดยการตั้ง Stop Order เหนือราคาซื้อเดิมเมื่อราคาสูงขึ้น
- ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ลงทุนจะได้รับกำไรบางส่วนแม้ว่าตลาดจะกลับทิศทาง
- การเข้าเทรดอัตโนมัติ (Automated Trading):
- ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าหรือออกจากการเทรดได้อัตโนมัติเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้
- ลดการต้องติดตามตลาดและการตัดสินใจแบบทันทีทันใด
- การป้องกันจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่คาดคิด (Protection from Unexpected Market Movements):
- ช่วยป้องกันการสูญเสียใหญ่จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ข่าวร้ายหรือวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้ราคาหลักทรัพย์ตกลงอย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างการใช้ Stop Order:
ตัวอย่างที่ 1: Stop Loss Order
คุณซื้อหุ้น XYZ ที่ราคา $50 ต่อหุ้นและต้องการจำกัดการขาดทุนสูงสุดไว้ที่ 10%
- ตั้ง Stop Loss Order ที่ $45
- หากราคาหุ้นตกลงมาถึง $45 ระบบจะขายหุ้นของคุณทันที
ตัวอย่างที่ 2: Stop Buy Order
คุณเห็นแนวโน้มขาขึ้นของหุ้น ABC และต้องการซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้านที่ $100
- ตั้ง Buy Stop Order ที่ $100
- หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง $100 ระบบจะซื้อลักทรัพย์ให้คุณทันที
ข้อควรระวังในการใช้ Stop Order:
- การเคลื่อนไหวของราคาชั่วคราว (Temporary Price Movements): ในบางครั้งราคาสามารถตกลงมาถึงระดับ Stop Loss แล้วเด้งกลับขึ้นไป ทำให้เกิดการขายหลักทรัพย์ในระดับที่ไม่ต้องการ
- ความผันผวนสูง (High Volatility): ในตลาดที่มีความผันผวนสูง การใช้ Stop Order อาจทำให้เกิดการขายหรือซื้อลักทรัพย์ในราคาที่ไม่ต้องการได้
- การทำงานในช่วงหลังตลาดปิด (After-Hours Trading): Stop Order อาจไม่ทำงานในช่วงหลังตลาดปิดหรือตลาดเปิดใหม่ ควรตรวจสอบเวลาการทำงานของตลาดและคำสั่งซื้อขาย
การใช้ Stop Order เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังและร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเทรด
