วิธีการกำหนดจุด Take Profit

how-to-determine-the-take-profit-point

วิธีการกำหนดจุด Take Profit

การกำหนดจุด Take Profit (จุดทำกำไร) เป็นส่วนสำคัญของการเทรด Forex ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถล็อกกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์ถึงระดับที่ต้องการ การตั้งค่า Take Profit อย่างเหมาะสมจะช่วยให้การเทรดเป็นไปตามแผนที่วางไว้และลดความเสี่ยงในการสูญเสียกำไรที่ทำได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีการกำหนดจุด Take Profit ที่มีประสิทธิภาพ:

วิธีการกำหนดจุด Take Profit

1.การใช้ระดับราคาทางเทคนิค (Technical Levels)

  • แนวรับและแนวต้าน: กำหนดจุด Take Profit ใกล้แนวต้าน (resistance) สำหรับการเข้าซื้อ (long) หรือใกล้แนวรับ (support) สำหรับการขาย (short)
  • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages): ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นจุดอ้างอิงในการตั้งค่า Take Profit เช่น ตั้งค่า Take Profit เมื่อราคาสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน

2.การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators)

  • Relative Strength Index (RSI): ตั้งจุด Take Profit เมื่อ RSI เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold)
  • Bollinger Bands: ตั้งจุด Take Profit เมื่อราคาถึงเส้นบนหรือเส้นล่างของ Bollinger Bands

3.การใช้รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)

  • รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns): ใช้รูปแบบแท่งเทียนในการตั้งจุด Take Profit เช่น รูปแบบ Hammer หรือ Shooting Star
  • รูปแบบกราฟ (Chart Patterns): ใช้รูปแบบกราฟ เช่น รูปแบบสามเหลี่ยม (Triangles), รูปแบบธง (Flags) เพื่อกำหนดจุด Take Profit

4.การใช้ Fibonacci Retracement Levels

  • ใช้ Fibonacci Retracement ในการระบุระดับการย้อนกลับของราคาและกำหนดจุด Take Profit ที่ระดับ Fibonacci เช่น 38.2%, 50%, 61.8%

5.การใช้ Risk-Reward Ratio

  • กำหนดจุด Take Profit โดยพิจารณาอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) เช่น อัตราส่วน 1:2 หรือ 1:3 เพื่อให้แน่ใจว่าผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ตัวอย่างการกำหนดจุด Take Profit

1.แนวรับและแนวต้าน

  • สมมติว่าคุณเข้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1200 และพบว่าแนวต้านอยู่ที่ 1.1250
  • คุณสามารถตั้งจุด Take Profit ใกล้แนวต้านนี้ เช่น ที่ราคา 1.1245

2.การใช้ RSI

  • หากคุณเข้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.1200 และ RSI อยู่ที่ 40 (เป็นเขตซื้อ)
  • ตั้งจุด Take Profit เมื่อ RSI ถึง 70 (เขตซื้อมากเกินไป) และราคาสูงขึ้นมาถึง 1.1300

3.รูปแบบกราฟ

  • สมมติว่าคุณพบรูปแบบธง (Flag) และคาดว่าราคาจะขึ้นจาก 1.1200 ไปถึง 1.1400
  • ตั้งจุด Take Profit ที่ระดับราคาเป้าหมายของรูปแบบธง

4.Fibonacci Retracement

  • หากคุณเข้าซื้อที่ราคา 1.1000 และราคาขึ้นไปถึง 1.1500 ก่อนที่จะย้อนกลับ
  • ตั้งจุด Take Profit ที่ระดับ Fibonacci 38.2% ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.1380

5.Risk-Reward Ratio

  • หากคุณมีจุด Stop Loss ที่ 50 จุด (pips) และต้องการอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:2
  • คุณควรตั้งจุด Take Profit ที่ 100 จุด (pips) ซึ่งอยู่ที่ราคา 1.1300 หากจุดเข้าอยู่ที่ 1.1200

ข้อแนะนำในการกำหนดจุด Take Profit

1.ยึดตามแผนการเทรด

  • ปฏิบัติตามแผนการเทรดที่วางไว้และอย่าปรับเปลี่ยนจุด Take Profit โดยไม่จำเป็น

2.หลีกเลี่ยงความโลภ

  • อย่าขยับจุด Take Profit ไกลเกินไปเพราะความโลภ อาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร

3.ติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐาน

  • ติดตามข่าวสารและปัจจัยพื้นฐานที่อาจมีผลกระทบต่อราคาตลาด

การกำหนดจุด Take Profit ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณสามารถล็อกกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรด การใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ จะช่วยให้คุณตั้งค่า Take Profit ได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

Founded Year 2008, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 13 languages
Founded Year 2009, leverage 1:1000, Platforms MT4/MT5, Website 28 languages
Founded Year 2010, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 20 languages

© Copyright 2024 Busforex.com