นักเทรดส่วนใหญ่นิยมใช้ Indicators ต่างๆ ในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการเทรด ต่อไปนี้เป็น Indicators ยอดนิยมที่นักเทรดใช้บ่อยที่สุด:
- Moving Averages (MA)
- Simple Moving Average (SMA): เป็นค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 50 วัน หรือ 200 วัน
- Exponential Moving Average (EMA): ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากกว่า SMA ทำให้ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
- Relative Strength Index (RSI)
- วัดความแข็งแกร่งของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ใช้เพื่อหาสัญญาณซื้อ-ขายจากการเข้าสู่โซน Overbought (มากกว่า 70) หรือ Oversold (น้อยกว่า 30)
- Moving Average Convergence Divergence (MACD)
- เป็นตัวชี้วัดแนวโน้มที่ประกอบด้วยเส้น MACD และเส้นสัญญาณ ใช้ในการหาจุดซื้อ-ขายจากการตัดกันของเส้นทั้งสอง
- Bollinger Bands
- ใช้ในการวัดความผันผวนของตลาด ประกอบด้วยเส้นกลาง (SMA) และเส้นที่คำนวณจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งสร้างขอบเขตด้านบนและล่าง
- Stochastic Oscillator
- เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมที่ใช้ในการระบุสภาวะ Overbought และ Oversold คล้ายกับ RSI แต่มีสูตรคำนวณที่แตกต่างกัน
- Fibonacci Retracement
- ใช้ในการระบุระดับการย้อนกลับของราคาหุ้น โดยการวัดจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดของราคา แล้วหาสัดส่วนตามลำดับ Fibonacci (เช่น 38.2%, 50%, 61.8%)
- Average Directional Index (ADX)
- ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ช่วยให้นักเทรดทราบว่าแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด
- Volume Indicators
- On-Balance Volume (OBV): ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย
- Volume Moving Average: ใช้ดูแนวโน้มของปริมาณการซื้อขาย
การใช้ Indicators เหล่านี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นักเทรดมักจะต้องพิจารณาการใช้งานร่วมกัน รวมถึงการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและสภาวะตลาดอื่น ๆ ด้วย