Ladder Trading แบบไม่มี Stop Loss
กลยุทธ์บริหารความเสี่ยงด้วยจังหวะและชั้นบันไดของราคา
Ladder Trading คือแนวทางการเทรดที่เน้นการ “ทยอยเข้า” หรือ “ทยอยเพิ่ม” ออเดอร์ตามทิศทางของราคา โดยไม่ใช้ Stop Loss แบบทั่วไป แต่ใช้หลักการ “จัดชั้น” หรือ “สร้างบันได” เพื่อกระจายความเสี่ยง แทนการวางเดิมพันทั้งหมดไว้ในจุดเดียว
กลยุทธ์นี้นิยมในหมู่นักเทรดที่เข้าใจพฤติกรรมราคา (Price Action) และมีความสามารถในการควบคุมพอร์ตอย่างรอบคอบ
แนวคิดหลักของ Ladder Trading
- ไม่จำเป็นต้องคาดเดาจุดกลับตัวแม่นยำ
ผู้เทรดไม่ต้องหาจุดกลับตัวที่ดีที่สุด แต่ใช้วิธี “ทยอยเข้า” ตามทิศทางที่ตลาดกำลังแสดงออก เช่น เมื่อราคาเริ่มขึ้นต่อเนื่อง ก็ทยอยเปิด Buy ทีละขั้น - การบริหารพอร์ตแทน Stop Loss
แทนที่จะตั้ง Stop Loss แบบคงที่ กลยุทธ์นี้ใช้ “การจัดขนาดออเดอร์” และ “การเฉลี่ยจุดเข้า” เป็นตัวคุมความเสี่ยง หากราคาย่อลงหรือแกว่ง ก็ไม่เสียหายหนัก เพราะมีการวางแผนชั้นไว้ล่วงหน้า - ใช้ Timeframe ใหญ่กำหนดทิศทาง
โดยทั่วไป เทรดเดอร์จะใช้กราฟ Daily หรือ H4 เพื่อดูแนวโน้มใหญ่ และใช้กราฟย่อย เช่น M15 หรือ M30 ในการหาจังหวะเข้าทีละขั้น
ตัวอย่างแนวทางการเทรด
สมมติว่าเทรดทองคำ (XAUUSD)
- แนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น
- เริ่มเปิด Buy ที่ 2350
- ถ้าราคาย่อลงมา 2340 จะเพิ่ม Buy อีก
- หากราคาย่อลึกถึง 2330 จะเพิ่มอีกชั้น
- เป้าหมายคือการ “สะสมออเดอร์ Buy” เพื่อเฉลี่ยต้นทุนต่ำลง
เมื่อราคาเด้งกลับขึ้นถึงโซน 2360–2380 ก็สามารถทยอยปิดกำไรตามชั้นบันไดเช่นเดียวกัน
ข้อดีของ Ladder Trading
- กระจายความเสี่ยง ไม่ต้องทายจุดกลับตัวแม่น
- สามารถปรับจังหวะตามพฤติกรรมราคาได้
- สร้างโอกาสกำไรจากการเฉลี่ยจุดเข้าได้ดี
- ใช้ได้ทั้งฝั่ง Buy และ Sell
ข้อควรระวัง
- ต้องมีแผนบริหารพอร์ตที่ชัดเจน (เช่น ใช้ทุนไม่เกิน 1–2% ต่อขั้น)
- ห้ามเพิ่มออเดอร์โดยไม่มีเหตุผลจากโครงสร้างราคา
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีวินัยทางการเงิน เพราะอาจถือขาดทุนสะสมหนักได้
สรุป
Ladder Trading แบบไม่มี Stop Loss ไม่ใช่การเทรดโดยประมาท แต่คือ “การบริหารจังหวะ” และ “การควบคุมพอร์ต” ด้วยความเข้าใจพฤติกรรมของราคา ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้ได้ดีมักมีความอดทนสูง เข้าใจแนวโน้มตลาด และรู้จักปล่อยให้กำไรทำงานแทนการรีบปิดออเดอร์