การเคลื่อนไหวของราคาที่ “Event Zone” และ “ระดับของแนวรับและแนวต้าน”

การเคลื่อนไหวของราคาที่ "Event Zone" และ "ระดับของแนวรับและแนวต้าน"

การเคลื่อนไหวของราคาที่ “Event Zone” และ “ระดับของแนวรับและแนวต้าน”

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการเทรด Forex การเคลื่อนไหวของราคาที่ “Event Zone” และ “ระดับของแนวรับและแนวต้าน” มีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่มีลักษณะและการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน นี่คือความแตกต่างระหว่างสองแนวคิดนี้

Event Zone (โซนเหตุการณ์)

ความหมาย

  • Event Zone หมายถึงพื้นที่ของกราฟราคาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญหรือการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญในอดีต ซึ่งอาจเกิดจากข่าวสารทางเศรษฐกิจ, การประกาศผลประกอบการ, การประชุมธนาคารกลาง หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา

ลักษณะการเคลื่อนไหวของราคา

  • ความผันผวนสูง: เมื่อราคามาถึง Event Zone มักจะเกิดความผันผวนสูง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ผลกระทบของเหตุการณ์และทำการซื้อขายอย่างหนักหน่วง
  • การย้อนกลับหรือทะลุผ่าน: ราคามักจะย้อนกลับ (Reversal) หรือทะลุผ่าน (Breakout) อย่างรุนแรงเมื่อมาถึง Event Zone เนื่องจากความไม่แน่นอนและแรงซื้อขายที่มากขึ้น

การใช้งาน

  • การวางแผนการเทรด: ใช้ Event Zone เพื่อเตรียมตัวสำหรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นและวางแผนการเข้าและออกจากตลาดอย่างเหมาะสม
  • การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit: วางตำแหน่ง Stop Loss และ Take Profit ให้ห่างจาก Event Zone เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่รุนแรงในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญ

แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance Levels)

ความหมาย

  • แนวรับ (Support) หมายถึงระดับราคาที่มีแนวโน้มที่จะหยุดการลดลงของราคาเนื่องจากมีแรงซื้อเข้ามามาก
  • แนวต้าน (Resistance) หมายถึงระดับราคาที่มีแนวโน้มที่จะหยุดการขึ้นของราคาเนื่องจากมีแรงขายเข้ามามาก

ลักษณะการเคลื่อนไหวของราคา

  • การกลับตัวที่แนวรับและแนวต้าน: ราคามักจะกลับตัวเมื่อมาถึงแนวรับหรือแนวต้าน เนื่องจากแรงซื้อหรือแรงขายที่มากขึ้น
  • การทดสอบซ้ำๆ: ราคามักจะทดสอบแนวรับและแนวต้านหลายครั้งก่อนที่จะกลับตัวหรือทะลุผ่านระดับเหล่านี้
  • ความเสถียรของระดับราคา: แนวรับและแนวต้านมักจะมีความเสถียรและสามารถระบุได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การใช้งาน

  • การตั้งค่า Entry และ Exit Points: ใช้แนวรับและแนวต้านในการตั้งค่า Entry และ Exit Points โดยเปิดตำแหน่งซื้อที่แนวรับและตำแหน่งขายที่แนวต้าน
  • การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit: วางตำแหน่ง Stop Loss ใต้แนวรับหรือเหนือแนวต้าน และตั้งค่า Take Profit ใกล้กับระดับแนวต้านหรือแนวรับถัดไป

ตัวอย่างการเคลื่อนไหวของราคา

Event Zone

  • สมมติว่ามีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สามารถสร้างความผันผวนในตลาด Forex ได้
  • เมื่อข้อมูลถูกประกาศ ราคาคู่สกุลเงิน EUR/USD อาจเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงภายใน Event Zone โดยมีการทะลุผ่านหรือย้อนกลับที่สำคัญ

แนวรับและแนวต้าน

  • สมมติว่าคู่สกุลเงิน EUR/USD มีแนวรับที่ 1.1200 และแนวต้านที่ 1.1400
  • ราคามักจะทดสอบแนวรับที่ 1.1200 และกลับตัวขึ้น เมื่อมาถึงแนวต้านที่ 1.1400 อาจเกิดการกลับตัวลงหรือต่อเนื่องไป

ข้อควรระวังในการเทรด

การเทรดที่ Event Zone

  • ระวังความผันผวนสูง: การเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและรุนแรงอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
  • การใช้เลเวอเรจ (Leverage) อย่างระมัดระวัง: การใช้เลเวอเรจสูงในช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน

การเทรดที่แนวรับและแนวต้าน

  • ระวังการทะลุผ่าน (Breakout): หากราคาเกิดการทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้าน อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่สำคัญ
  • การใช้การยืนยัน (Confirmation): ใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกลับตัวหรือการทะลุผ่านระดับแนวรับและแนวต้าน

สรุป

Event Zone และ แนวรับและแนวต้าน มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนการเทรด แต่มีลักษณะและการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน การเคลื่อนไหวของราคาที่ Event Zone มักจะมีความผันผวนสูงเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญ ขณะที่แนวรับและแนวต้านเป็นระดับราคาที่เสถียรและสามารถใช้ในการระบุจุดเข้าและออกจากตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดควรใช้ทั้งสองแนวคิดนี้ร่วมกันในการวางแผนการเทรดและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

Founded Year 2008, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 13 languages
Founded Year 2009, leverage 1:1000, Platforms MT4/MT5, Website 28 languages
Founded Year 2010, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 20 languages

© Copyright 2024 Busforex.com