การเทรดแบบราคาสวิง (Swing Trading)
เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการจับโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่ในช่วงสั้นถึงกลาง โดยพยายามจับจังหวะการกลับตัวหรือการสวิงของราคาในช่วงแนวโน้มหลัก กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ไม่ต้องการติดตามตลาดตลอดเวลา แต่สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์
ขั้นตอนการเทรดแบบราคาสวิง
1. การระบุแนวโน้มหลัก (Identify the Main Trend)
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเช่นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), MACD, หรือการดูกราฟราคา เพื่อระบุแนวโน้มหลักว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
2. การระบุจุดสวิง (Identify Swing Points)
- Swing Highs จุดที่ราคาหยุดการขึ้นและเริ่มกลับลง
- Swing Lows จุดที่ราคาหยุดการลงและเริ่มกลับขึ้น
- การสังเกตจุดสูงสุดและต่ำสุดเหล่านี้ช่วยให้เราระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญ
3. การวิเคราะห์รูปแบบราคา (Analyze Price Patterns)
- มองหารูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) เช่น Hammer, Shooting Star, Engulfing Patterns
- ใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Fibonacci Retracement, Bollinger Bands เพื่อช่วยยืนยันจุดสวิง
4. การวางแผนการเข้าเทรด (Plan the Trade Entry)
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
- เข้าเทรดซื้อ (Buy) เมื่อราคาลงมาทดสอบจุดสวิงต่ำสุด (Swing Low) และมีสัญญาณการกลับตัวขึ้น
แนวโน้มขาลง (Downtrend)
- เข้าเทรดขาย (Sell) เมื่อราคาขึ้นไปทดสอบจุดสวิงสูงสุด (Swing High) และมีสัญญาณการกลับตัวลง
5. การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Setting Stop-Loss)
- สำหรับการซื้อ (Buy) ตั้งจุดหยุดขาดทุนต่ำกว่าจุดสวิงต่ำสุดเล็กน้อย
- สำหรับการขาย (Sell) ตั้งจุดหยุดขาดทุนสูงกว่าจุดสวิงสูงสุดเล็กน้อย
6. การตั้งเป้าหมายกำไร (Setting Profit Targets)
- ใช้ระดับแนวรับและแนวต้านถัดไปเป็นเป้าหมายกำไร
- ใช้ Fibonacci Extension เพื่อคาดการณ์ระดับเป้าหมายกำไรที่เป็นไปได้
ตัวอย่างการเทรดแบบราคาสวิง
ตัวอย่างที่ 1 แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
1. การระบุแนวโน้มหลัก
- ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA 50) ในกราฟรายวัน ราคาปิดอยู่เหนือ EMA 50
2. การระบุจุดสวิงต่ำสุด (Swing Low)
- ราคาลงมาทดสอบที่ $50 และเด้งกลับขึ้น
3. การวางแผนการเข้าเทรด
- ดูสัญญาณการกลับตัวขึ้น เช่น แท่งเทียนแบบ Hammer หรือ Bullish Engulfing ที่จุด $50
4. การเข้าเทรด
- เข้าเทรดซื้อ (Buy) เมื่อมีสัญญาณยืนยันการกลับตัวขึ้น
5. การตั้งจุดหยุดขาดทุน
- ตั้งจุดหยุดขาดทุนต่ำกว่าจุดสวิงต่ำสุดที่ $48
6. การตั้งเป้าหมายกำไร
- ตั้งเป้าหมายกำไรที่ระดับแนวต้านถัดไป เช่น $60 หรือใช้ Fibonacci Extension
ตัวอย่างที่ 2 แนวโน้มขาลง (Downtrend)
1. การระบุแนวโน้มหลัก
- ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA 50) ในกราฟรายวัน ราคาปิดอยู่ต่ำกว่า EMA 50
2. การระบุจุดสวิงสูงสุด (Swing High)
- ราคาขึ้นไปทดสอบที่ $100 และเด้งกลับลง
3. การวางแผนการเข้าเทรด
- ดูสัญญาณการกลับตัวลง เช่น แท่งเทียนแบบ Shooting Star หรือ Bearish Engulfing ที่จุด $100
4. การเข้าเทรด
- เข้าเทรดขาย (Sell) เมื่อมีสัญญาณยืนยันการกลับตัวลง
5. การตั้งจุดหยุดขาดทุน
- ตั้งจุดหยุดขาดทุนสูงกว่าจุดสวิงสูงสุดที่ $102
6. การตั้งเป้าหมายกำไร
- ตั้งเป้าหมายกำไรที่ระดับแนวรับถัดไป เช่น $90 หรือใช้ Fibonacci Extension