การเทรด Forex โดยใช้กลยุทธ์ GRID
การเทรด Forex โดยใช้กลยุทธ์ GRID เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเปิดตำแหน่งการเทรดหลายตำแหน่งในระยะห่างที่กำหนดไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องพึ่งการวิเคราะห์ทิศทางของตลาด กลยุทธ์นี้สามารถใช้ได้ทั้งในตลาดที่มีแนวโน้ม (Trending Market) และตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ (Ranging Market) อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์ GRID ต้องการการบริหารความเสี่ยงที่ดี เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเปิดตำแหน่งจำนวนมากในเวลาเดียวกัน
หลักการของกลยุทธ์ GRID
1.การตั้งค่า GRID
- กำหนดระดับราคาหรือระยะห่างที่คุณจะเปิดตำแหน่งการเทรด เช่น ทุกๆ 10 pips หรือ 20 pips
- เปิดตำแหน่งซื้อ (Long) และขาย (Short) สลับกันที่ระดับราคาที่กำหนดไว้
2.การบริหารความเสี่ยง
- ใช้คำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit เพื่อป้องกันการขาดทุนมากเกินไป
- กำหนดขนาดของตำแหน่งการเทรดที่เหมาะสมเพื่อให้การขาดทุนที่เป็นไปได้ไม่เกินความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขั้นตอนการใช้กลยุทธ์ GRID
1.กำหนดระดับราคาและระยะห่าง (Grid Spacing)
- ระบุระยะห่างระหว่างแต่ละตำแหน่ง เช่น ทุกๆ 10 pips
- ตัวอย่างเช่น หากคู่สกุลเงิน EUR/USD มีราคาอยู่ที่ 1.1000 สามารถกำหนดให้เปิดตำแหน่งที่ราคา 1.1010, 1.1020, 1.1030 ฯลฯ
2.การเปิดตำแหน่งการเทรด (Placing Trades)
- เปิดตำแหน่งซื้อ (Long) และขาย (Short) ที่ระดับราคาที่กำหนดไว้
- สามารถเลือกเปิดตำแหน่งทั้งสองทิศทางพร้อมกันหรือรอให้ราคาถึงระดับหนึ่งก่อนเปิดตำแหน่งในทิศทางนั้นๆ
3.การตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit
- ตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit สำหรับแต่ละตำแหน่งการเทรดเพื่อป้องกันการขาดทุนและล็อกกำไร
- สามารถตั้งค่า Take-Profit ให้แตกต่างกันในแต่ละระดับราคาเพื่อให้มีกำไรอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างการใช้กลยุทธ์ GRID
สมมติว่ามีคู่สกุลเงิน EUR/USD ที่ราคา 1.1000 และกำหนดระยะห่างระหว่างตำแหน่งที่ 10 pips
1.การตั้งค่า GRID
- เปิดตำแหน่งซื้อ (Long) ที่ราคา 1.1000
- เปิดตำแหน่งขาย (Short) ที่ราคา 1.1010
- เปิดตำแหน่งซื้อ (Long) ที่ราคา 1.1020
- เปิดตำแหน่งขาย (Short) ที่ราคา 1.1030
- และต่อไปเรื่อยๆ
2.การตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit
- ตั้งค่า Stop-Loss ที่ 20 pips และ Take-Profit ที่ 30 pips สำหรับแต่ละตำแหน่ง
ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ GRID
ข้อดี
- ไม่ต้องพึ่งการวิเคราะห์ทิศทาง: สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดที่มีแนวโน้มและตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ
- การทำกำไรอย่างต่อเนื่อง: การตั้งค่า Take-Profit ในแต่ละระดับราคาทำให้มีกำไรอย่างต่อเนื่อง
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงสูง: การเปิดตำแหน่งหลายตำแหน่งพร้อมกันอาจทำให้เกิดการขาดทุนมาก หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวเป็นเวลานาน
- ต้องใช้เงินทุนมาก: ต้องมีเงินทุนเพียงพอเพื่อรองรับการเปิดตำแหน่งหลายตำแหน่ง
คำแนะนำในการใช้กลยุทธ์ GRID
1.การบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
- ใช้คำสั่ง Stop-Loss และ Take-Profit อย่างเคร่งครัด
- กำหนดขนาดของตำแหน่งการเทรดให้เหมาะสมกับเงินทุน
2.การทดสอบกลยุทธ์
- ทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีเดโมก่อนใช้ในการเทรดจริง เพื่อปรับปรุงและทำความเข้าใจในรายละเอียด
3.การติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
- ติดตามข่าวสารและการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพตลาด
การใช้กลยุทธ์ GRID ในการเทรด Forex สามารถช่วยให้คุณทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องระมัดระวังในการบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุน ควรฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีเดโมก่อนนำมาใช้ในการเทรดจริงเพื่อป้องกันการขาดทุนที่ไม่คาดคิด