เทคนิคการเทรด Forex ให้ได้กําไร โดยใช้ Money Management
การบริหารจัดการเงิน (Money Management) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเทรด Forex ที่ช่วยให้คุณรักษาทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน เทคนิคการบริหารจัดการเงินที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนและเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรดของคุณ นี่คือเทคนิคต่าง ๆ ในการเทรด Forex โดยใช้ Money Management
1. การกำหนดขนาดการเทรด (Position Sizing)
Risk per Trade
- กำหนดขนาดการเทรดโดยยึดตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง ปกติจะเป็น 1-2% ของทุนทั้งหมด เช่น ถ้าคุณมีทุน 10,000 USD คุณควรเสี่ยงไม่เกิน 100-200 USD ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
การคำนวณขนาดตำแหน่ง
- ใช้การคำนวณเพื่อหาขนาดตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้สูตร Position Size=Risk AmountStop Loss in Pips×Pip Value {Position Size} = {Risk Amount}{Stop Loss in Pips} {Pip Value} Position Size=Stop Loss in Pips×Pip ValueRisk Amount
- ตัวอย่างเช่น หากคุณเสี่ยง 100 USD และ Stop Loss อยู่ที่ 50 pips และค่า Pip Value ของคู่เงินคือ 10 USD: Position Size=10050×10=0.2 lots{Position Size} = {100}{50 \times 10} = 0.2 { lots}Position Size=50×10100=0.2 lots
2. การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit
Stop Loss
- ตั้ง Stop Loss ในจุดที่แน่นอนเพื่อจำกัดการขาดทุน ควรตั้ง Stop Loss ในระดับที่ไม่เสี่ยงเกินไปและควรพิจารณาการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับ/แนวต้าน, ค่า ATR (Average True Range)
Take Profit
- ตั้งเป้าหมายการทำกำไรในระดับที่คาดว่าราคาอาจจะถึงตามการวิเคราะห์ เช่น ระดับ Fibonacci, แนวรับ/แนวต้าน, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages)
3. การใช้ Risk-Reward Ratio
กำหนดอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio)
- ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม เช่น 1:2 หรือ 1:3 ซึ่งหมายความว่าคุณจะเสี่ยง 1 ส่วนเพื่อทำกำไร 2 หรือ 3 ส่วน
การคำนวณ
- ตัวอย่างเช่น หาก Stop Loss ของคุณอยู่ที่ 50 pips และคุณต้องการใช้ Risk-Reward Ratio 1:2 คุณควรตั้ง Take Profit ที่ 100 pips
4. การจัดการอารมณ์และวินัยในการเทรด
ปฏิบัติตามแผนการเทรด
- ยึดมั่นในแผนการเทรดและ Money Management ที่กำหนดไว้ ไม่ควรเปลี่ยนแผนการเทรดกลางคันเนื่องจากอารมณ์
การบันทึกและวิเคราะห์การเทรด
- บันทึกการเทรดทุกครั้งและทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และ Money Management
5. การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
กระจายการลงทุน
- อย่าเทรดเพียงคู่เงินเดียว ควรกระจายการลงทุนในหลายคู่เงินและหลายตลาดเพื่อลดความเสี่ยง
การจัดสรรทุน
- กระจายการใช้ทุนในการเทรดแต่ละครั้งให้เหมาะสม ไม่ควรเสี่ยงทุนทั้งหมดในการเทรดครั้งเดียว
6. การใช้ Trailing Stop
Trailing Stop
- ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไรในกรณีที่ราคามีแนวโน้มไปในทิศทางที่คุณคาดหวัง Trailing Stop จะเลื่อน Stop Loss ตามราคาที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นบวก
ตัวอย่างการใช้ Money Management ในการเทรด
สมมติว่าคุณมีบัญชีเทรด 10,000 USD และต้องการเสี่ยงไม่เกิน 1% ของทุนต่อการเทรด (100 USD)
ระบุจุดเข้าและออก
- เข้าเทรดคู่เงิน EUR/USD ที่ราคา 1.2000
- ตั้ง Stop Loss ที่ 1.1950 (50 pips)
- ตั้ง Take Profit ที่ 1.2100 (100 pips)
คำนวณขนาดการเทรด
- Risk Amount = 100 USD
- Stop Loss = 50 pipsPip Value = 10 USD (สำหรับคู่เงิน EUR/USD)
- Position Size = 10050×10=0.2{100}{50 \times 10} = 0.250×10100=0.2 lots
ตั้งค่าในแพลตฟอร์มเทรด
- ตั้งคำสั่ง Buy 0.2 lots ที่ราคา 1.2000
- ตั้ง Stop Loss ที่ 1.1950
- ตั้ง Take Profit ที่ 1.2100
สรุป
การบริหารจัดการเงินเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการเทรด Forex ที่ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน การกำหนดขนาดการเทรด, การตั้ง Stop Loss และ Take Profit, การใช้ Risk-Reward Ratio, การจัดการอารมณ์และวินัยในการเทรด และการกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรให้ความสำคัญในการเทรด Forex เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว