Money Management คือการบริหารจัดการเงินลงทุน สำหรับการลงทุนในการเทรดและการลงทุนอื่นๆ นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Money Management เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเน้นให้ความสำคัญกับเทคนิคการวิเคราะห์การลงทุนซะมากกว่า ส่วน Money Management จะให้ความสำคัญไม่มาก แต่จริงๆแล้ว Money Management มีความสำคัญไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆเลย เนื่องจากนักลงทุนอย่าลืมว่าเวลาลงทุนทั้งการเทรด Forex หรือหุ้นจะเกิดความเสี่ยงโดยที่เราไม่สามารถหลีกเลียงได้ เช่น
ประโยชน์ในการทำ Money Management
การลงทุนต่างๆนักลงทุนต้องเข้าใจก่อนว่า การที่เงินที่เราลงทุนไปจะได้กำไรมากๆนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะลงทุนเพียงครั้งเดียวแล้วให้ได้กำไรแยอะๆ โดยไม่มีการขาดทุนเลย คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น Position Sizing จึงเป็นเครื่องมือที่นักเทรดนำมาใช้ควบคุมความเสี่ยง (Risk Management) โดยจะกำหนดความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ ก็คือเราจะควบคุม การขาดทุนไม่ให้เกินกี่บาท หรือขาดทุนกี่เปอร์เซ็นต์ หลักการของ Position Sizing ก็คือ เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ ถ้าเรากำหนดและควบคุมอัตราความเสี่ยงในจุดที่ยอมรับการขาดทุนได้..จะช่วยไม่ให้เราขาดทุนมากเกินไปและยังมีเงินเหลือพอ ที่จะเอาไปลงทุนในคราวหน้าได้เมื่อมีโอกาสดีๆเข้ามา

การทำ Reward/Risk Ratio หมายถึงค่าอัตราส่วนของผลตอบแทนต่อความเสี่ยงรับได้ ซึ่งต้องมีการกำหนดจุด Cut Loss และจุดที่จะ Take Profit จากการลงทุนในทุกๆครั้งด้วย เช่น ถ้าปัจจุบันราคาหุ้น อยู่ที่ 2 บาท และเราจะคาดการณ์ว่าราคา หุ้นจะสามารถขึ้นไปถึง 3.5 บาท และถ้าเราขายเพื่อที่จะทำกำไร (Take Profit) ที่ราคา 3 บาท และถ้ามีการคาดการณ์ผิด ราคาหุ้นที่ลงทุนไว้ปรับราคาลดลงมา ที่ราคา 1.5 บาทเราจะทำการ Cut Loss เพื่อป้องกันความเสียหาย ดังนั้น Reward/Risk Ratio ค่าจะอยู่ที่ 2 (3-2/2-1.5)
Overtrade หมายถึงวิธีการเทรด โดยใช้ Leverage ที่เกินตัวไป หรือPosition Sizing ที่มากเกินไปกว่าสัดส่วนปกติ เช่นถ้านักลงทุนต้องการลงทุนในอัตราทด 5 เท่า ในจำนวนเงิน 1ล้านบาท แปลว่านักลงทุนจะกำลังลงทุนในหุ้นที่มีอำนาจซื้อจริงๆคือ 5 ล้าน การลงทุนแบบนี้ Leverage จะสูงเกินตัว หมายความว่าถ้าลงทุนบนระดับความเสียงที่เกินกว่าที่ตัวเองจะรับได้ จะทำให้นักลงทุนหมดเงินได้ภายในระยะเวลาที่รวจเร็ว ส่วนมากเกิดมาจากการใช้อารมณ์ในการเทรด เพราะอารมณ์จะส่งผลต่อการ Overtrade มากที่สุด ทำให้ควบคุมได้ยากดังนั้น นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงและดูอัตราทดที่เราพอรับได้รวมถึงเงินลงทุนให้เหมาะสมกับการลงทุนด้วย
การตัดขาดทุน (Stop Loss) สำคัญมากในการลงทุน เนื่องจากการลงทุนมีความเสื่อมของเวลา (Time decay) และวันที่หมดอายุ การถือหุ้นโดยที่ไม่มีจุด Stop Loss ทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ทำให้เกิดความเสียหายได้ดังนั้นนักลงทุนควรกำหนดจุด Stop Loss ก่อนเข้าลงทุนทุกครั้ง และถ้าราคาตกลงมาเท่าจุด Stop Loss ที่ตั้งไว้จริงๆ ก็ควทำตาม
แผนที่ตั้งไว้อย่างมีวินัยด้วย แต่บางครั้งพอราคาลงมาถึงจุดที่ตั้งไว้ว่าจะยอมแพ้แล้ว กลับต้องการเอาชนะ จึงเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปอีก และนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น นี้คือเหตุผลว่าทำไม่เราต้องตั้งจุดStop Loss ก่อนการซื้อขายทุกครั้ง