โบรกเกอร์ Forex คืออะไร มีเป็นกี่ประเภท ต่างกันอย่างไร

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร

บทความ Forex ที่น่ารู้วันนี้ “โบรเกอร์ Forex คืออะไร” เป็นเสมือนนายหน้าที่ให้บริการซื้อขาย Forex โดยโบรกเกอร์นั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่คอยรวบรวมคำสั่งซื้อขายแล้วส่งไปยังตลาดกลางอีกที ซึ่งนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ทุกคนหากจะทำการเทรด Forex ก็จะต้องทำการซื้อขายผ่านทางโบรกเกอร์เท่านั้นไม่สามารถซื้อขายโดยตรงกับตลาดกลางได้ 

เทรดเดอร์จะไม่สามารถเทรดโดยตรงกับ Forex Markets ได้ จำต้องส่งคำสั่งผ่าน โบรกเกอร์ เช่นที่ exness.com, xm.com เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์ A ได้รับราคาคู่สกุลเงิน EUR/USD มาจากตลาดกลางที่ราคา 1.20020 แต่เมื่อเราจะกด Buy เพื่อทำการซื้อเราก็จะได้มาในราคา 1.20040 แทน เป็นต้น นั้นหมายความว่าเมื่อเรากดซื้อเราจะขาดทุนทันที 20 จุด ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนต่างของราคาขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์และประเภทบัญชีเทรดด้วย ซึ่งบางประเภทบัญชีเทรดก็อาจจะไม่มีค่าส่วนต่างของราคาแต่ต้องมาเสียค่าคอมมิชชันให้กับทางโบรกเกอร์แทน ซึ่งโบรกเกอร์ Forex แบ่งได้เป็นสองประเภทคือ Non Dealing Desk (NDD) และ Dealing Desk (DD)

หลังจากรู้ความหมายของคำว่า โบรกเกอร์ Forex คืออะไร แล้ว เราจะไปดูกันว่า โบรกเกอร์ Forex นั่นมีกี่ประเภทอะไรบ้าง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ดูเปรียบเทียบถึงข้อดีและข้อเสียได้จากด้านล่างนี้

1. โบรกเกอร์ Dealing Desk (DD)

โบรกเกอร์ Dealing Desk (DD) นี้ก็จะเป็นโบรกเกอร์ที่ทำการเก็บออเดอร์เอาใว้มาจับคู่กันเอง ไม่ส่งคำสั่งไปที่ตลาดกลาง ซึ่งปัญหาของโบรกเกอร์ประเภทนี้คือความเสี่ยงในช่วงที่กราฟผันผวนสูงๆ จนทำให้ทางโบรกเกอร์นั้นจับคู่คำสั่งซื้อกับคำสั่งขายไม่ทันส่งผลให้เวลาที่เราจะกดเปิด-ปิด ออเดอร์ก็มักจะมีการปฏิเสธคำสั่งซื้อขายของเราหรือเกิดรีโควตนั่นเอง อีกทั้งหากมีความผันผวนสูงมากแล้วกราฟดันวิ่งไปในทิศทางเดียวกันกับทิศทางที่มีเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ซื้อ ก็อาจจะทำให้ทางโบรกเกอร์นั้นเกิดการขาดทุนอย่างหนักจนอาจถึงขึ้นล้มละลายได้เลยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น วิกฤติ SNB ในปี 2558 ที่ผ่านมาที่ทำให้โบรกเกอร์ทั่วโลกกว่า 10 แห่งนั้นต้องล้มละลายกันเลยทีเดียว

  • จับคู่ออเดอร์ของลูกค้าภายในโบรกเกอร์เอง โดยนำออเดอร์ของลูกค้าที่กดคำสั่ง BUY จับคู่กับลูกค้าที่กดคำสั่ง SELL
  • หากโบรกเกอร์ไม่สามารถจับคู่สถานะของลูกค้าภายในโบรกเกอร์ตนเองได้ ก็จะนำคำสั่งซื้อ-ขายของลูกค้าไปเทรดตรงข้ามกับลูกค้าในตลาดจริงหรือโบรกเกอร์อื่นเพื่อป้องกันความเสี่ยง
  • รับออเดอร์จากลูกค้าโดยตรง เนื่องจากตรวจสอบดูแล้วน่าจะเป็นส่วนที่ไม่ทำกำไร โดยโบรกเกอร์รับออเดอร์ส่วนนี้ไว้เอง
  • ค่า Spread ต่ำ แบบ Fixed ตายตัว
  • ค่า commission ต่ำ (บางโบรกไม่คิด)
  • ค่าบริการต่างๆ ถูกกว่าปกติ
  • อาจมีการส่งคำสั่งซื้อขายที่ล้าช้า
  • ราคาที่ได้อาจไม่ใช่ราคาจริงในตลาด (คลาดเคลื่อนนิดหน่อย)
  • อาจมีการปฏิเสธการรับคำสั่งซื้อ (Re-Quotes)
  • ช่วงที่มีปริมาณการเทรดมาก ช่วงมีข่าว มักมีปัญหาบ่อย
  • ในบางโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ โบรกเกอร์สามารถตกแต่งราคาเองได้ (เคยมีข่าว SL Hunter)

2. โบรกเกอร์ Non Dealing Desk (NDD) 

โบรกเกอร์ Non Dealing Desk (NDD)  ประเภทนี้จะเป็นโบรกเกอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดกลางโดยตรง จะไม่ทำการเก็บออเดอร์เอาใว้เอง ข้อดีคือเราจะได้ซื้อขายในราคาเดียวกับตลาดกลางเลย และ ทางโบรกเกอร์เองก็จะลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาไปได้พอสมควรทำให้โบรกเกอร์แบบแรกนี้ก็จะดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่า อีกทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายของเราก็จะมีความรวดเร็วมากกว่าเนื่องจากทางโบรกเกอร์นั้นส่งคำสั่งไปที่ตลาดกลางโดยตรงจึงทำให้มีสภาพคล่องที่สูง

โบรกเกอร์ประเภท No Dealing Desk (NDD) สามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท ประกอบด้วย

  1. STP (Straight Through Processing System) ระบบ STP คือ การประมวลผลโดยตรง ในการจับคู่คำสั่งซื้อ-ขายของลูกค้าเข้าสู่ตลาดจริงโดยตรง ทำให้ได้ราคาตรงกับราคาตลาดจริงโดยระบบจะจัดเรียงลำดับ Bid กับ Ask ให้กับทางโบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ STP
  2. ECN+STP (Electronic Communication Network + Straight Through Processing) โบรกเกอร์ที่เป็น ECN+STP คือ การใช้ระบบที่ทำให้คำสั่งซื้อ-ขายสามารถจับคู่กับราคาในตลาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการรีโควต เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบที่เมื่อเปิดบัญชีและป้อนคำสั่งเข้าไปแล้วระบบจะไม่เก็บข้อมูลไว้ที่โบรกเกอร์ก่อนส่งไปยังส่วนกลาง ทำให้ซื้อ-ขายได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักเทรดที่อยู่ในระดับมืออาชีพแล้ว
  • จับคู่การซื้อขาย รวดเร็ว
  • ไม่ค่อยมี Re quote
  • มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือมากกว่า
  • โบรกเกอร์ต้องมีการขอในอนุญาติ ในรับรอง มีกฎระเบียนในการดำเนินการที่เคร่งครัด ทำให้สามารถไว้วางใจได้
  • ค่า Spread สูง
  • ค่า commission สูง
  • ค่าดูแล ค่าบริการต่างๆ อาจจะแพงกว่านิดหน่อย

ปัจจุบันโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ส่วนใหญ่ในตลาดทั่วโลก นิยมใช้ระบบแบบผสมผสานทั้งแบบ DD และ NDD โดยเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับประเภทลูกค้า เช่น หากเป็นลูกค้ารายใหญ่จะส่งเข้าสู่ตลาดโดยตรง ลูกรายย่อยเลือกจับคู่ภายในโบรกเกอร์หรือรับไว้เอง

โบรกเกอร์ Dealing Desk (DD) นี้ก็จะเป็นโบรกเกอร์ที่ทำการเก็บออเดอร์เอาใว้มาจับคู่กันเอง ไม่ส่งคำสั่งไปที่ตลาดกลาง

  • ค่า Spread ต่ำ แบบ Fixed ตายตัว
  • ค่า commission ต่ำ (บางโบรกไม่คิด)
  • ค่าบริการต่างๆ ถูกกว่าปกติ
  • อาจมีการส่งคำสั่งซื้อขายที่ล้าช้า
  • ราคาที่ได้อาจไม่ใช่ราคาจริงในตลาด
  • อาจมีการปฏิเสธการรับคำสั่งซื้อ (Re-Quotes)
  • ช่วงที่มีปริมาณการเทรดมาก ช่วงมีข่าว มักมีปัญหา
  • ในบางโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ โบรกเกอร์สามารถตกแต่งราคาเองได้

โบรกเกอร์ Non Dealing Desk (NDD) ประเภทนี้จะเป็นโบรกเกอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดกลางโดยตรง จะไม่ทำการเก็บออเดอร์เอาใว้เอง

  • จับคู่การซื้อขาย รวดเร็ว
  • ไม่ค่อยมี Re quote
  • มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือมากกว่า
  • โบรกเกอร์ต้องมีการขอในอนุญาติ ในรับรอง มีกฎระเบียนในการดำเนินการที่เคร่งครัด ทำให้สามารถไว้วางใจได้
  • ค่า Spread สูง
  • ค่า commission สูง
  • ค่าดูแล ค่าบริการต่างๆ อาจจะแพงกว่านิดหน่อย
  • เปิดบัญชีเทรดลูกค้า
  • ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนของผู้เปิดบัญชีตามกฎใบอนุญาต
  • บริการ ฝากเงิน ถอนเงิน เงินเข้าบัญชีเทรด
  • ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการเทรด เช่น MT4, MT5, Webtrade
  • Support คอยดูแลช่วยเหลือลูกค้า แก้ไขปัญหาการใช้งาน หรือให้ข้อมูลกับเทรดเดอร์
  • มีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการมากกว่า 5 ปีขึ้นไป
  • การจดทะเบียนถูกต้อง มีใบอนุญาต มีหน่วยงานควบคุม ที่น่าเชื่อถือเช่น FCA ,ASIC, CySec, IFSC
  • มีการป้องกันความเสี่ยงเงินในบัญชีเทรดของลูกค้า
  • มีการแยกบัญชีลูกค้ากับบัญบริษัท
  • ช่องทางการฝากถอนที่เหมาะสำหรับคนไทยและมีความปลอดภัย
  • ความเร็วในการฝากเงิน/ถอนเงิน
  • ค่าสเปรดต่ำ
  • ฝ่าย Support ภาษาไทย
  • มีช่องทางติดต่อที่สะดวกเช่น chat online 24 ชั่วโมง.

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร เป็นเสมือนนายหน้าผู้ที่ให้บริการซื้อขายในตลาด Forex (แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ) โดยโบรกเกอร์นั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่คอยรวบรวมคำสั่งซื้อขายจากเหล่าบรรดาเทรดเดอร์ที่เปิดบัญชีเทรด Forex ผ่านโบรกเกอร์ แล้วส่งไปยังตลาดกลาง ซึ่งโบรกเกอร์ Forex แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ Non Dealing Desk (NDD) และ Dealing Desk (DD)

Founded Year 2008, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 13 languages
Founded Year 2009, leverage 1:1000, Platforms MT4/MT5, Website 28 languages
Founded Year 2010, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 20 languages

© Copyright 2024 Busforex.com